เรื่องของปู่ ตอนที่ 2 การเดินทางในสมัยปู่เป็นหนุ่ม
การเดินทางสมัยก่อน ใช้เดินด้วยเท้า และใช้เกวียน โดยจะมีควายลาก และทางเรือ หากเดินทางไม่ไกลมากก็ใช้เดินไป การเดินนั้นส่วนมากเดินด้วยเท้าเปล่า ไม่มีรองเท้า หากเดินทางไกลทางบกก็ใช้ “เกวียน” ทางน้ำก็ใช้เรือ การเดินทางส่วนใหญ่ใช้เวลานานกว่าเดี๋ยวนี้มาก การเดินทางข้ามเมืองบางครั้งใช้เวลา 1-2 วัน หรือมากกว่านั้น บางครั้งต้องนอนพักค้างคืนกลางทาง โดยการนอนจะใช้วิธีนอนใต้ “เกวียน” เพื่อให้ปลอดภัยจากผู้ร้ายและสัตว์ มีความเชื่อกันว่าการนอนใต้ “เกวียน” จะมีสิ่งคุ้มครองให้ปลอดภัย แต่บางทีอาจจะเป็นเพราะ สมัยก่อนตามทางไม่มีไฟฟ้าเหมือนเช่นเดี๋ยวนี้ การนอนใต้ “เกวียน” ก็อาจจะเปรียบเสมือนการพลางตัวอย่างหนึ่ง เพราะอยู่ในความมืด ผู้ร้ายมองไม่เห็นว่าเข้ามาแล้วจะเจอกับอาวุธอะไรที่เรานำติดมาบ้าง และเรามากี่คน เพราะส่วนใหญ่การเดินทางจะไปกันหลายคน ก่อนการเดินทางก็จะมีการนำ ข้าวและอาหารติดไปด้วยเพื่อที่จะใช้กินกลางทาง (หากเป็นคนทางแถบยุโรปก็อาจเป็นขนมปัง) ส่วนน้ำนั้นก็หากินตามแหล่งน้ำต่าง ๆ เพราะเมื่อก่อนน้ำตรงไหนก็กินได้ถ้าไม่ขุ่นจนเกินไป เพราะไม่มีสารเคมีเช่นเดี๋ยวนี้ ระหว่างทางบางทีอาจเจอบ้านคนอาศัยอยู่บ้าง แต่ก็น้อย บ้านคนไทยเมื่อก่อนเวลาเราเข้าไปที่บ้านไหน เจ้าของบ้านก็จะหาข้าวและน้ำมาให้กิน ถึงแม้จะไม่รู้จักกันก็ตาม บ้านคนไทยสมัยก่อนมักนิยมปลูกติดแม่น้ำ จึงมีการเดินทางด้วยเรือ เมื่อก่อนนี้แม่น้ำยังไม่แคบและตื้นเขินจนเกินไป จึงทำให้เรือที่มีขนาดไม่ใหญ่มากแล่นผ่านได้ ส่วนมากเรือขนาดใหญ่มักจะขนสินค้าเช่น เกลือ มาแลกกับข้าวเปลือก หรือบางทีก็มีอย่างอื่นมาด้วย ปู่ของฉันมีความสามารถต่อเกวียนได้ วันนี้ขอเขียนแค่นี้ก่อนโปรดติดตามต่อไปนะคะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น